Go Metro to Universal Studio - Long Beach

12:45 AM
             มหานครลอสแอนเจลิส หรือคนไทยมักเรียกย่อๆว่า "แอลเอ" อยู่ในลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา เป็นเขตอาณาที่มีชาวต่างชาติมาตั้งรกรากอยู่หลายเชื้อชาติ แล้วมาหลอมรวมกันอยู่ที่นี่ จนไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่ละชาติก็มาปักธงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง เกิดเป็นการตั้งชุมชนที่เป็นรากเหง้าขึ้นมา ชาวเอเชียก็มี China Town, Korea Town, Little Tokyo, Little Saigon ของไทยเราก็มี Thai Town ว่ากันว่าคนไทยแอลเอมาลงหลักปักฐานเป็นชุมชนไทยในต่างแดนที่ใหญ่ที่สุด ไทยทาวน์ตั้งอยู่ที่เมืองฮอลลีวูดฝั่งตะวันออก มีธุรกิจของคนไทยอยู่หลายสิบร้าน ที่มากที่สุดเห็นจะเป็นร้านอาหารไทย ที่นับวันก็ยิ่งโด่งดังและถูกปากชาวต่างชาติมากขึ้นเป็นลำดับ
             คนไทยมาอยู่เยอะจริงๆ เรียกได้ว่าบางคนไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษกันเลยในการใช้ชีวิตประจำวัน พูดถึงการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการใช้รถยนต์โดยสารส่วนตัว เพราะระบบขนส่งมวลชนไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร แต่เค้าก็มีรถประจำทางและรถไฟใต้ดินขององค์การขนส่งมวลชน เรียกย่อๆว่าเมโทรเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
             มีอยู่วันนึงนึกครึ้มๆอยากลองประสบการณ์แปลกใหม่ เลยไปลองใช้บริการของรถไฟใต้ดินเพื่อเดินทางไปไกลๆดูบ้าง เรียกว่า ทัวร์แบบวันเดียว เที่ยวให้คุ้ม อะไรทำนองนั้น จ่ายค่าโดยสารเพียง 3 เหรียญฯก็ใช้บริการได้ทั้งวัน วางแผนว่า จะนั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีในนอร์ธ ฮอลลีวูด แวะเที่ยวที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (Universal Studio) แล้วไปต่อกันที่เมืองลองบีช เป็นเมืองติดชายทะเลที่คนที่นั่นรู้จักกันดี ใครที่คุ้นกับเส้นทางที่บอกไปคงสงสัยว่าเป็นไปได้หรือ ลองคิดดูถ้าขับรถไปคงจะถึงที่ลองบีชแบบค่ำมืดแน่นอน เพราะต้องฝ่ารถติดบนฟรีเวย์ช่วงเลิกงาน แต่แผนเที่ยวของเราครั้งนี้ เป็นไปได้เพราะบริการของเมโทรนั่นเอง
                เริ่มต้นก็สะดวกสบายแล้ว เพราะเราสามารถนำรถยนต์ไปจอดที่สถานีรถไฟ จากนั้นลงไปซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว แล้วรอขบวนรถไฟไม่ถึง 5 นาที ตอนแรกก็งงๆไม่รู้ต้องนั่งไปทิศไหน แต่แล้วก็มีเพื่อนชาวเม็กซิกันใจดี ช่วยบอกว่า ที่นี่ขบวนรถต่างมุ่งหน้าไปทิศเดียวเท่านั้น เพราะเป็นสถานีปลายทาง แถมยังบอกเราว่า ใช้บริการครั้งแรกก็สนุกดีหรอก แต่เฉพาะครั้งแรกเท่านั้นแหละ นี่คือความคิดเห็นของคนที่โดยสารอยู่เป็นประจำ อย่างว่า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า สัจธรรมของชีวิตมนุษย์
                พอถึงสถานียูนิเวอร์แซล ซิตี้ เราก็ลงแล้วข้ามถนนไปรอชัตเติ้ลบัส เพื่อขึ้นไปเที่ยวยูนิเวอร์แซล เราใช้เวลาไม่มาก เพราะเรามีตั๋วเที่ยวได้ทั้งปี แถมไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถ ราคา $10 เหรียญฯ แอบยิ้มอยู่ในใจ เพราะเป็นครั้งแรก ต้องขอบคุณบริการดีๆจากเมโทร ถือเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงวิกฤตน้ำมันแพงเช่นนี้
                    
               ใช้เวลาที่ Universal Studio Hollywood ไม่นานมาก เพราะซื้อตั๋วแบบใช้ได้ทั้งปี จะกลับมาอีกก็ได้ ก็เลยกินข้าวกลางวัน และไปดูโชว์ Water World ที่เค้าเรียกว่าไปเหมือนไปตอกบัตร อะไรทำนองนี้ ก่อนโชว์เต็มรูปแบบจะเริ่มขึ้น ก็ต้องเจอฝรั่งจำอวดมา Build ต่อมอารมณ์ขันให้ทำงานกัน


                  เที่ยวพอหอมปากหอมคอ เราก็มุ่งหน้าต่อไปยังเมืองลองบีช อยู่ทางตอนใต้ของแอลเอ จากเส้นทางสีแดง (Red Line)สู่สีน้ำเงิน (Blue Line) จำง่ายดี โดยไปต่อขบวนรถไฟที่ถนน 7 เมโทรเซ็นเตอร์ มีป้ายบอกทาง รับรองไม่ต้องกลัวหลง ทีแรกเราก็รีบร้อนกลัวขึ้นรถอีกขบวนไม่ทัน แต่ในที่สุดก็ทัน เพราะเขาต้องจอดรอผู้โดยสารต่อขบวนรถอยู่แล้ว เป็นอันว่าไม่ต้องเสียเวลารอ
              ในที่สุดเราก็ถึงลองบีช ด้วยวิวสองข้างทางที่แปลกใหม่ ไม่เคยเห็น เพราะปกติเห็นแต่วิวบนฟรีเวย์ เดินเที่ยวชมวิว ถ่ายรูป ดื่มกาแฟ สูดอากาศริมทะเลให้เต็มปอด แล้วก็เดินทางกลับในช่วงค่ำ
               
             เส้นทางขากลับนั้นแม้จะผ่านเส้นทางเดิม แต่สภาพแวดล้อมในขบวนรถเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อย่างแรก คือมีตำรวจ 3 คนยืนจังก้าอยู่ในขบวนด้วย และแล้ว ละครฉากต่างๆก็บรรเลงขึ้น เริ่มด้วย เด็กน้อยชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่เดินออกมาพูดอะไร ฟังไม่ค่อยชัดเจนด้วยสำเนียงของเขา แต่พอสรุปได้ว่า ขอบริจาคเงินนั่นเอง
            ต่อมาไม่นาน มีคนถือกล่องพลาสติค ภายในบรรจุขนมหวาน ช็อกโกแลตออกมาเร่ขาย ไอ้เราก็ตกใจ มีแบบนี้ด้วยเหรอ พาให้นึกถึงข้าวเหนียวไก่ย่างในขบวนรถไฟที่เมืองไทยไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าวิถีชีวิตในการทำมาหากินจะคล้ายคลึงกัน ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเห็นว่าบ้านเมืองที่นี่มีกฎระเบียบที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด ก็เลยอดสงสัยไม่ได้ จากนั้นก็มีชายชาวเม็กซิกันคนหนึ่ง เดินออกมาเล่าเรื่องราวในชีวิตของเขาที่ต้องตกงาน ที่ฟังเข้าใจเพราะตอนแรกเขาใช้ภาษาอังกฤษ เมื่อพูดจบก็มีเวอร์ชั่นสองเป็นภาษาสแปนิช เหมือนอยู่ในโรงหนัง ประมาณนั้นเลย จากนั้นก็เดินขอรับเงินบริจาค
                ที่ผ่านไปนั้นถือว่าเป็นน้ำจิ้ม เราก็นึกว่าจะจบลงแล้ว ที่ไหนได้ พอใกล้ถึงสถานีนอร์ธฮอลลีวูด ก็มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่วิ่งขึ้นมา ขอเงินไปซื้อเหล้ากิน ตามด้วยถ้อยคำที่ต้องเซ็นเซอร์ พอกลุ่มนี้ลงไปเราก็โล่งใจ แต่เหลือบไปเห็นชายผู้หนึ่งหยิบถุงน่องขึ้นมาคลุมศรีษะ ดีที่ว่าไม่คลุมทั้งใบหน้า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคงรู้ดีว่าอะไรจะเกิดตามมา
                เสียดายที่ไม่อาจเก็บรูปบรรยากาศที่เล่ามาให้ดูกันได้ เพราะถ้าหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมากดชัตเตอร์คนเหล่านั้น รับรองว่าคงไม่ได้กลับมาเขียนเรื่องนี้มาให้อ่านกันแน่ อย่างไรก็ตาม ถือว่าการเดินทางครั้งนี้สนุกและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ นี่คือบริการของสาธารณะที่ประกอบไปด้วยผู้คนที่หลากหลาย ก็เลยเป็นที่มาของพฤติกรรมหลายแบบที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆ หากมีโอกาสก็จะใช้บริการเส้นทางอื่นๆของเมโทรอีกแน่นอน
               ฝากรูปงานแถลงข่าวบริการรถไฟใต้ดินในช่วงเทศกาลที่ขยายเวลาให้บริการจนดึก ที่เห็นเป็น Mascot ของทีมฮ๊อกกี้ LA KINGS และ Pom Pom girls 

No comments:

Powered by Blogger.