รำลึกพระคุณ "หลวงเตี่ย"
สาธุชนหลั่งไหลร่วมงานเนื่องในวัน “พระธรรมราชานุวัตร” รำลึกพระคุณ “หลวงเตี่ย” พระเถระที่มีคุณูปการต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทยในสหรัฐฯ ให้เด็กไทยได้เรียนภาษาและวัฒนธรรมไทยจวบจนทุกวันนี้
ช่วงเช้าของวันที่ 4 พฤษภาคม ได้มีการจัดงานเนื่องในวันพระธรรมราชานุวัตร ที่วัดไทยลอสแอนเจลิส เพื่อรำลึกถึงพระคุณของพระธรรมราชานุวัตร หรือหลวงเตี่ย ซึ่งเป็นพระเถระที่มีคุณูปการต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยมีพระสงฆ์ ผู้นำศาสนา ผู้นำทางการเมือง รวมทั้งประชาชนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
หลังพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ได้มีขบวนแห่รูปและคารวะอนุสาวรีย์หลวงเตี่ย พร้อมกันนี้ได้จัดให้มีการวางพวงหรีดหน้ารูปปั้นคุณพูนศักดิ์ ซอโสตถิกุล ผู้ริเริ่มสร้างวัดไทยฯ
เวลาต่อมา คณะสงฆ์เจริญสังฆคุณเบื้องหน้าอนุสาวรีย์หลวงเตี่ย ต่อด้วยการอ่านกลอนรำลึกถึงหลวงเตี่ย และการแสดงนาฏศิลป์บวงสรวงเพลงช้า ตระโปรยข้าวตอก จากนั้น ท่านเจ้าคุณพระราชธรรมวิเทศ หัวหน้าสงฆ์วัดไทยฯแสดงสัมโมทนียกถา
นายจักร บุญ-หลง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจิสขึ้นกล่าวว่า งานในวันนี้ถือเป็นงานสำคัญของวัดอีกงานหนึ่ง นั่นคือการรำลึกถึงหลวงเตี่ย จากจำนวนคนและจำนวนร้านอาหารของผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมกันในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชมและศรัทธาในหลวงเตี่ยอย่างล้นหลาม
“ผมไม่อยากให้ความรู้สึกสำนึกในพระคุณของหลวงเตี่ยเกิดขึ้นเพียงปีละวันเดียว เพราะหลวงเตี่ยไม่ได้มีความกรุณาต่อเราปีละวัน แต่มีความกรุณาต่อเรามาโดยตลอด และเรายังได้รับประโยชน์จากสิ่งที่หลวงเตี่ยให้ไว้มาถึงทุกวันนี้” กงสุลใหญ่แอลเอกล่าว
กงสุลใหญ่ฯกล่าวต่อว่า การสำนึกถึงพระคุณของหลวงเตี่ยควรมีอยู่ตลอดไป วิธีการง่ายๆคือการนึกถึงคำสอนของหลวงเตี่ยที่ได้สอนเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่และนำคำสอนนั้นๆมาปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของตัวเองและชุมชนไทย
ด้านนายชวพจน์ ถุงสุวรรณ กรรมการวัดไทยฯ เปิดเผยว่ารู้สึกปลาบปลื้มที่เห็นคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แสดงถึงความเคารพต่อหลวงเตี่ย ซึ่งท่านได้ช่วยเสริมสร้างวัดไทยฯให้เป็นแบบอย่าง โดยถือได้ว่าท่านเป็นพระรุ่นแรกในปี 1969 ที่นำพุทธศานาจากประเทศไทยมาเผยแผ่ที่นี่
“คนนิยมนับถือในฐานะที่ท่านส่งเสริมพระพุทธศานาและวัฒนธรรมไทย ทำให้เด็กได้เรียนภาษาไทย ดนตรีไทยซึ่งท่านเป็นผู้ริเริ่ม” นายชวพจน์กล่าว
โดยพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้มีประมาณ 70 รูป ทั้งพระไทยจากวัดต่างๆในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งพระสงฆ์ที่มาจากประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีพระศรีลังกา พระจีน รวมทั้งผู้นำศาสนาคริสต์ และกงสุลใหญ่ของประเทศศรีลังกายังได้มาร่วมงานด้วย
และในโอกาสที่จะเดินทางไปรับพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรทองคำในปีนี้หลังจากได้ช่วยงานทางด้านพระพุทธศาสนามาเป็นเวลานาน นายชวพจน์กล่าวว่ารู้สึกปิติยินดีที่ได้รับการเสนอให้รับรางวัลดังกล่าว และอยากชักชวนให้ทุกคนช่วยกันส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อให้สังคมมีความอยู่ดีและสามัคคีกัน
พระธรรมราชานุวัตรได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2545 โดยคณะสงฆ์และกรรมการวัดไทยได้เห็นชอบให้วันที่ 7 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันพระธรรมราชานุวัตร” โดยกำหนดให้วันอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมเป็นวันจัดกิจกรรมอันเนื่องด้วยวันพระธรรมราชานุวัตร
No comments: