Food Fair @ Santa Monica

9:56 PM
เทศกาลอาหารนี้จัดขึ้นโดยองค์กรวางแผนครอบครัวแห่งลอสแอนเจลิส และใช้ Santa Monica Civic Auditorium เป็นสถานที่จัดงานเช่นเคย จุดมุ่งหมายหลักในการจัดงานก็เพื่อหาทุนให้กับองค์กรแห่งนี้นั่นเอง จากข้อมูลพบว่าได้ริเริ่มจัดเทศกาลอาหารมาตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งในตอนนั้นเป็นเพียงการสาธิตทำอาหารโดย Julia Child ลองคำนวณระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงทุกวันนี้ คุณคงไม่แปลกใจที่พบว่าเทศกาลอาหารในปีนี้ได้โตขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายถึงความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนที่มากขึ้นด้วย


                ไม่เพียงแต่บรรดาร้านอาหาร ร้านค้าและบันเทิงมากกว่า 150 แห่งทั่วแอลเอจะนำพาสินค้า อาหาร เครื่องดื่มมาร่วมงานอย่างแข็งขันแล้ว จุดที่น่าสนใจคือผู้คนที่มาร่วมงานซึ่งยอมควักกระเป๋าจ่ายบัตรเข้างาน $125-$200 แล้วแต่ว่าจองช้า จองเร็ว หรือจะมาร่วมงานรอบไหน หากเป็นรอบกลางวันบัตรก็จะถูกลงหน่อย แต่หากเป็นช่วงเย็นก็จะต้องจ่ายเหนาะๆ$200 เราลงข่าวประชาสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้แล้วในส่วนของข่าวสังคมธุรกิจ แต่ไม่ทราบว่ามีใครไปร่วมงานนี้บ้างหรือเปล่า นี่แสดงให้เห็นถึงน้ำใจหรือการยื่นมือช่วยเหลือสังคมของพลเมืองอเมริกัน เชื่อว่าถ้าคิดถึงความคุ้มค่าของการที่จะได้อะไรเป็นรูปธรรมคงไม่มีอะไรคุ้มแน่ แม้ว่าเค้าจะให้คุณชิมอาหารฟรีทั้งงาน อย่างไรก็ตามคนที่มาร่วมงานนี้นอกจากอิ่มท้องแล้วเหนือไปกว่านั้นคือความอิ่มใจที่ได้สละเงินของเขาในการช่วยเหลือเด็กๆและผู้หญิงที่มีโอกาสน้อยกว่าพวกเขานั่นเอง และภายในงานยังมีการจำหน่ายสลากเพื่อทำบุญราคาใบละ $20 เพื่อไปลุ้นรางวัล รวมทั้งมีการประมูลเงียบเพื่อหารายได้เพิ่มเติมอีกด้วย


                ในฐานะที่เป็นสื่อชาวเอเชียเพียงฉบับเดียวจึงได้รับการจดจำจากผู้จัดได้ง่ายหน่อย เราได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีโดยเฉพาะการหาคนมาตอบคำถามที่เราอยากรู้ นั่นคือทำอย่างไรจะมีร้านอาหารไทยเข้าร่วมในงานนี้ได้บ้าง ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือ Rachel Kaganoff Stern ประธานร่วมจัดงานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านการจัดบู้ธอาหาร เธอให้คำตอบว่าร้านอาหารที่ประสงค์จะมาออกร้านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกบู้ธแต่อย่างใดเพียงแต่นำอาหารมาบริจาคในงานเท่านั้นเองเช่นเดียวกับการสละเวลามาแนะนำและแจกอาหาร

                 เทศกาลอาหารจะจัดขึ้นในวันพฤหัสแรกของเดือนมีนาคมของทุกปี มีแต่ปีนี้ที่ถูกเลื่อนมาจัดในวันพฤหัสบดีที่สองของเดือนเนื่องจากสถานที่ไม่ว่าง ร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถติดต่อมาที่Planned Parenthood ประมาณเดือนกันยายนในปีก่อนหน้าที่จะถึงงาน ผู้รับผิดชอบด้านการจัดบู้ธอาหารขยายความ

                มองๆดูร้านอาหารที่มาเข้าร่วมก็มาจากหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งอิตาเลียน ญี่ปุ่น เม็กซิกัน อินเดีย รวมทั้งอาหารในแนว Fusion หรือแม้กระทั่ง Fast food ชื่อดังอย่าง Pink’s Hot Dogs ที่เป็นขาประจำของงานนี้ คาดว่าในอนาคตคงมีอาหารไทยไปร่วมด้วยเพื่อตอกย้ำว่ารสชาติอาหารไทยก็ไม่เป็นรองใคร แถมยังมีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จุดนี้สำคัญเพราะหลายร้านที่มาร่วมงานก็ชูจุดเด่นที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากได้บุญแล้วยังได้โปรโมทร้านไปในตัวเพราะหากคนมาเที่ยวงานเกิดติดใจรสชาติอาหารนั้นๆก็ย่อมจะตามไปเป็นลูกค้าในอนาคตด้วย

                แม้ว่าจะไม่มีร้านอาหารไทยไปเข้าร่วม แต่งานนี้ก็มีการโชว์แกะสลักผักและผลไม้ของไทย จากคุณเสาวภา ออล์ไบรท์ซึ่งมาเป็นส่วนหนึ่งของงานหลายปีแล้วเช่นกัน ความสวยงาม ละเอียดอ่อนในฝีไม้ลายมือคนไทยสามารถดึงความสนใจจากฝรั่งได้ดีเช่นเคย



                องค์กรวางแผนครอบครัวแห่งลอสแอนเจลิสเป็นหน่วยงานที่ให้บริการสุขภาพทางด้านการเจริญพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในแอลเอเคาน์ตี้ มีผู้ขอใช้บริการประมาณ 93,000 คนต่อปี ซึ่งจะให้บริการตรวจสุขภาพเช่น การตรวจหามะเร็งการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิด การทำแท้ง ทดสอบการตั้งครรภ์ การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศ โดยเน้นการให้ความรู้กับเด็กวัยรุ่นซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดโรคจากการมีเพศสัมพันธ์รวมไปถึงการตั้งครรภ์ในวัยเรียน จึงเป็นที่มาของโครงการผู้นำวัยรุ่นที่จัดขึ้นในโรงเรียนต่างๆเพื่อให้เด็กเหล่านี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีในอนาคต
                เทศกาลอาหารที่จัดขึ้นนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานของกลุ่มคนชาติต่างๆในแอลเอเช่นเดียวกับรสชาติอาหารหลากหลายเมนูที่นำมาให้ผู้คนได้ลิ้มลอง

No comments:

Powered by Blogger.