อยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อน

ความที่อาศัยอยู่ในต่างแดน ประเทศที่อะไรๆก็ดูจะโมเดิร์นไปเสียหมด เลยรู้สึกเบื่อ การกลับไปค้นหา เที่ยวชมโบราณสถาน โบราณวัตถุทำให้รู้สึกดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะการได้ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวไทยพุทธถือว่ามีคุณค่าทางใจเกินคำบรรยาย

ทันทีที่เข้าไปยังตัวเมืองของจังหวัดอยุธยา สถานที่แรกที่นึกถึงคือวัด เราตรงไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล จากข้อมูลพบว่า วัดใหญ่ชัยมงคล เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าไท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชด้วย

พระเจดีย์ชัยมงคล เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา องค์พระเจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสูงรูปแปดเหลี่ยม รวมความสูงจากฐานถึงยอดประมาณ 60 เมตร ตามประวัติกล่าวว่าในปี 2135 เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีชัยในการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่านั้น พระองค์ทรงพิโรธเหล่าแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถตีทัพพม่าให้แตกพ่ายอย่างราบคาบ จึงจะประหารชีวิตเสีย สมเด็จพระวันรัตน์วัดป่าแก้วได้ทูลขอชีวิตให้ และแนะนำให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเสริมพระเจดีย์ที่มีอยู่เดิมให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้พระราชทานนามวัดให้ใหม่ว่า วัดชัยมงคล แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดใหญ่ แทบจะทุกคนที่ไปถึงก็มักจะขึ้นบันไดไปชมด้านบน บริเวณวัดสะอาดและงดงาม แม้ว่าอยุธยาจะเต็มไปด้วยวัดแต่ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนที่จังหวัดนี้ก็อย่าพลาดที่จะไปชมวัดใหญ่ชัยมงคลกันนะคะ

เมื่ออิ่มบุญแล้ว ก็ต้องหาอะไรให้อิ่มท้องกันบ้าง ก่อนจะไปกินของหนักก็อดที่จะหาของเบาๆมากินเพื่อเรียกน้ำย่อย ได้ยินมาว่าโรตีสายไหมที่จังหวัดนี้โด่งดังมาแต่ไหนแต่ไร รู้ว่าอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แต่ไปไม่ถูกเลยต้องสอบถามชาวบ้านแถวนั้น พอไปถึงจะเห็นร้านขายโรตีสายไหมอยู่หลายเจ้า ก็เลือกเอาตามอัธยาศัย ทุกร้านมีป้ายโฆษณาการันตีความอร่อย แต่พอกลับมาแล้วเปิดเว็บดู ชาวเว็บจะแนะนำร้านอาบีดีน ข้างๆ 7 Eleven เราไม่ได้ไปซื้อร้านนั้น แต่กลับไปคราวหน้ารับรองไม่พลาดแน่ รองท้องด้วยของหวานไปแล้ว คราวนี้ก็หิวได้ที่ แม้จะข้ามขั้นตอนการกินก็ไม่เป็นไร ถ้าเอ่ยถึงกุ้งแม่น้ำ นักชิมทุกคนจะต้องนึกถึงร้านอาหารแถวบางปะอิน เราเลือกลงที่ร้านต้นน้ำ ตัวร้านสร้างด้วยไม้อยู่ริมแม่น้ำสมชื่อ มีสะพานทอดเป็นทางเดิน จะเลือกไปนั่งบนเรือ หรืออีกฝั่งหนึ่งสร้างคล้ายๆแพขนาดใหญ่ นั่งที่ไหนไม่สำคัญแต่ที่เฝ้ารอคือการหม่ำกุ้งแม่น้ำตัวโตๆมันเยิ้มๆ และแล้วก็ไม่ผิดหวัง กุ้งแม้น้ำที่นี่สด เนื้อหวาน เคล้าน้ำจิ้มรสกลมกล่อม เอามันกุ้งคลุกข้าวสวยราดด้วยน้ำจิ้ม อร่อยเหาะ แหม...เที่ยวเมืองไทยนี่สนุก เติมความสุขให้กับชีวิต สมกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ประชาสัมพันธ์ไว้จริงๆ

ใครที่กำลังเครียดอย่างหนักแต่พอมีเงินเก็บไว้ใช้สบายๆลองไปพักผ่อนสมอง หวนสู่บ้านเกิดสักพัก อาจทำให้จิตใจแจ่มใส คิดแก้ปัญหาอะไรใหม่ๆขึ้นมาก็เป็นได้ หรือใครที่ท้อแท้ หมดกำลังใจ แนะให้กลับสู่อ้อมอกของครอบครัว ไม่มีใครจะจริงใจเท่าคนในบ้านอีกแล้ว